การต่อสู้ของ ธนะศักดิ์ ศรีใส มังกรไฟเทโร
การต่อสู้ของ ธนะศักดิ์ ศรีใส มังกรไฟเทโร
เจ้าบี ธนะศักดิ์ ศรีใส ปราการหลังวัย 27 ปีของทีมมังกรไฟ โปลิศ เทโร เอฟซี ในปัจจุบัน วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงมุมมองการเล่นฟุตบอลของเจ้าตัวกันว่ามีความเป็นมาอย่างไร กว่าจะมีวันนี้ได้ต้องเจออะไรมาบ้าง ไม่รอช้ามาดูกันเลย...
เจ้าบี ธนะศักดิ์ ศรีใส ได้กล่าวถึงการเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลของตัวเองและมุมมองการเล่นกองหลังของตัวเองว่า ?
"ในมุมมองสำหรับตัวผม กองหลังเป็นตำแหน่งที่ต้องต่อสู้หนัก เพราะมันเป็นตำแหน่งที่จะต้องคอยหยุดเกมรุกของคู่แข่งให้ได้ เพื่อป้องกันให้ทีมไม่ให้เสียประตู ไม่ว่าผมจะอยู่ทีมไหนสโมสรเล็กหรือใหญ่ผมเต็มที่กับมันทุกวินาทีเสมอ เพื่อที่จะลงไปเล่นเป็น 11 ตัวจริงของทีมให้ได้ ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่จะต้องแย่งชิงกันครับ"
"ผมเกิดที่จังหวัดปราจีนบุรี มาเรียนที่กรุงเทพ เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนบ้านบางกะปิ ผมมีพี่ชายเค้าเป็นนักฟุตบอลอยู่แล้ว เค้าเก่งมากครับ เค้าเปรียบเสมือนใบเบิกทางของผมในการเล่นฟุตบอลเลยก็ว่าได้ ซึ่งตอนผมเรียนอยู่ ป.3 ผมได้ไปเจออาจารย์ที่สอนพี่ชายผม เค้าเห็นผม เค้าเลยชักชวนผมไปลองเตะฟุตบอลดูมั้ย ผมก็ งงๆ เพราะผมไม่เคยเตะฟุตบอลเลย ผมก็เลยไม่ปิดโอกาสตัวเอง ก็ลองดูครับ อาจารย์เค้าเห็นผมตัวใหญ่ โครงสร้างร่างกายพอจะเล่นได้ เค้าก็ให้ผมไปเล่นในตำแหน่งกองหลังเลยตั้งแต่ตอนผมอยู่ ป.3"
"จากนั้นผมก็เล่นมาเรื่อยๆ จนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับพี่ชายผม เขาขาหักสองท่อน เหมือนกับว่าความฝันของพี่ชายผมดับไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จากนั้นผมก็เลยบอกกับตัวเองว่าจะทำความฝันแทนที่พี่ชายให้ได้ผมจะเป็นนักเตะอาชีพให้ได้ครับ"
"ต่อมาพี่ชายผมก็แนะนำให้ผมไปเล่นที่บ้านเกิดดูก่อนไหม อยู่ในดิวิชั่นสองด้วย ซึ่งผมก็ตกลงไปเล่น และก็ประสบความสำเร็จเลยมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นสองในปีแรกครับ กระทั่งมี โค้ชสมชาย ทรัพย์เพิ่ม โทรหาผม ผมก็เลยตกใจและตื่นเต้นมาก เราจะได้เล่นไทยลีกแล้วหรอนี่"
"พี่ต๊อบ ปฏิภาณ เพชรพูล คือไอดอลการเล่นฟุตบอลของผมเลยครับ สมัยที่ผมเล่นให้ทีมทีโอที เอสซี พี่เค้าเป็นนักเตะที่ผมชอบสไตล์การเล่นมากครับ พี่เค้าเคยติดทีมชาติไทยด้วยและเล่นได้แข็งแกร่งมาก ดุดัน ทุ่มเท"
"จากนั้นผมก็เล่นและศึกษาจากพี่ต๊อบมาเรื่อยๆ จนผมได้ย้ายไปเล่นให้ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้มาเล่นให้ทีมที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ และผมก็มีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้ทั้ง ไทยลีก เอฟเอ คัพ และ ถ้วยพระราชทาน ก. ตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาล ที่ผมอยู่ที่นั่น"
"ต่อมาผมตัดสินใจไปเล่นให้ทีมอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ทีมระดับลีกภูมิภาค และกลับมาพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้งด้วยการพาทีมพัทยา ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นขึ้นอยู่ไทยลีกในปี 2016"
"มาพูดถึงปัจจุบันกันบ้าง ผมได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมโปลิศ เทโร เอฟซี หรือ บีอีซี เทโร ศาสน เดิม รู้สึกภูมิใจมากครับ ได้กลับมาเล่นที่นี่อีกครั้ง ได้เล่นกับ พี่โก้ ดัสกร ทองเหลา พี่แป๊ะ พิชิต พงษ์ เฉยฉิว และนักเตะที่เก่งๆ อีกหลายคนในทีม ดีมากครับที่มีพวกพี่ๆ เค้าอยู่ เค้าคอยแนะนำเราสอนเราให้ซ้อมถูกวิธีและถ่ายทอดประสบการณ์ให้เราได้ดีครับ"
ทิ้งท้ายบทความบอลไทยในวันนี้...ธนะศักดิ์ ศรีใส นักเตะคนนี้จะมีอนาคตอย่างแน่นอนเพราะด้วยความมุ่งมั่นในการเล่นฟุตบอลและมุมมองที่คิดบวก ทำให้เขาจะเป็นกำลังสำคัญของขุมกำลังช้างศึกได้แน่..ถ้าหากได้รับโอกาสที่เหมาะสม
"ผมเกิดที่จังหวัดปราจีนบุรี มาเรียนที่กรุงเทพ เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนบ้านบางกะปิ ผมมีพี่ชายเค้าเป็นนักฟุตบอลอยู่แล้ว เค้าเก่งมากครับ เค้าเปรียบเสมือนใบเบิกทางของผมในการเล่นฟุตบอลเลยก็ว่าได้ ซึ่งตอนผมเรียนอยู่ ป.3 ผมได้ไปเจออาจารย์ที่สอนพี่ชายผม เค้าเห็นผม เค้าเลยชักชวนผมไปลองเตะฟุตบอลดูมั้ย ผมก็ งงๆ เพราะผมไม่เคยเตะฟุตบอลเลย ผมก็เลยไม่ปิดโอกาสตัวเอง ก็ลองดูครับ อาจารย์เค้าเห็นผมตัวใหญ่ โครงสร้างร่างกายพอจะเล่นได้ เค้าก็ให้ผมไปเล่นในตำแหน่งกองหลังเลยตั้งแต่ตอนผมอยู่ ป.3"
"จากนั้นผมก็เล่นมาเรื่อยๆ จนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับพี่ชายผม เขาขาหักสองท่อน เหมือนกับว่าความฝันของพี่ชายผมดับไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จากนั้นผมก็เลยบอกกับตัวเองว่าจะทำความฝันแทนที่พี่ชายให้ได้ผมจะเป็นนักเตะอาชีพให้ได้ครับ"
"ต่อมาพี่ชายผมก็แนะนำให้ผมไปเล่นที่บ้านเกิดดูก่อนไหม อยู่ในดิวิชั่นสองด้วย ซึ่งผมก็ตกลงไปเล่น และก็ประสบความสำเร็จเลยมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นสองในปีแรกครับ กระทั่งมี โค้ชสมชาย ทรัพย์เพิ่ม โทรหาผม ผมก็เลยตกใจและตื่นเต้นมาก เราจะได้เล่นไทยลีกแล้วหรอนี่"
"พี่ต๊อบ ปฏิภาณ เพชรพูล คือไอดอลการเล่นฟุตบอลของผมเลยครับ สมัยที่ผมเล่นให้ทีมทีโอที เอสซี พี่เค้าเป็นนักเตะที่ผมชอบสไตล์การเล่นมากครับ พี่เค้าเคยติดทีมชาติไทยด้วยและเล่นได้แข็งแกร่งมาก ดุดัน ทุ่มเท"
"จากนั้นผมก็เล่นและศึกษาจากพี่ต๊อบมาเรื่อยๆ จนผมได้ย้ายไปเล่นให้ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้มาเล่นให้ทีมที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ และผมก็มีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้ทั้ง ไทยลีก เอฟเอ คัพ และ ถ้วยพระราชทาน ก. ตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาล ที่ผมอยู่ที่นั่น"
"ต่อมาผมตัดสินใจไปเล่นให้ทีมอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ทีมระดับลีกภูมิภาค และกลับมาพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้งด้วยการพาทีมพัทยา ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นขึ้นอยู่ไทยลีกในปี 2016"
"มาพูดถึงปัจจุบันกันบ้าง ผมได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมโปลิศ เทโร เอฟซี หรือ บีอีซี เทโร ศาสน เดิม รู้สึกภูมิใจมากครับ ได้กลับมาเล่นที่นี่อีกครั้ง ได้เล่นกับ พี่โก้ ดัสกร ทองเหลา พี่แป๊ะ พิชิต พงษ์ เฉยฉิว และนักเตะที่เก่งๆ อีกหลายคนในทีม ดีมากครับที่มีพวกพี่ๆ เค้าอยู่ เค้าคอยแนะนำเราสอนเราให้ซ้อมถูกวิธีและถ่ายทอดประสบการณ์ให้เราได้ดีครับ"
ทิ้งท้ายบทความบอลไทยในวันนี้...ธนะศักดิ์ ศรีใส นักเตะคนนี้จะมีอนาคตอย่างแน่นอนเพราะด้วยความมุ่งมั่นในการเล่นฟุตบอลและมุมมองที่คิดบวก ทำให้เขาจะเป็นกำลังสำคัญของขุมกำลังช้างศึกได้แน่..ถ้าหากได้รับโอกาสที่เหมาะสม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น