เปิดสถิติแข้งไทยลีกแพงสุดในประวัติศาสตร์
เปิดสถิติแข้งไทยลีกแพงสุดในประวัติศาสตร์
ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2018 จะเริ่มในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สำหรับตอนนี้เป็นช่วงการซื้อ-ขายนักเตะเรามาดูกันว่าสถิติการย้ายทีมของแข้งไทยลีกมีค่าตัวสูงสุดที่เท่าไหร่และมีใครกันบ้าง?...
8. สิโรจน์ ฉัตรทอง
กองหน้า / อายุ 24 ปี
สำหรับ เจ้าตี๋ ย้ายจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี มาค้าแข้งกับให้ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี ด้วยค่าตัว 15 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2016 โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงเฝ้าเสาให้ทัพช้างศึกยุทธหัตถีแทบทุกนัดในลีก 34 นัด เสียประตู 58 ลูก และเก็บคลีตชีตได้ 4 นัด ขณะที่รายการช้าง เอฟเอ คัพ ลงเล่น 4 นัด เสีย 2 ลูก และเก็บ 2 คลีนชีต และมีแนวโน้มว่าปีหน้าจะยังคงอยู่กับทีมต่อไปเนื่องจากสัญญายังมีเหลือกับทีมอีกประมาณ 2 ปี
สำหรับ นูรูล ย้ายจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี มาค้าแข้งกับให้ทีม การท่าเรือ เอฟซี ด้วยค่าตัว 20 ล้านบาท
ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2018
โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงเล่นให้ทัพฉลามชลไปในลีก 32 นัด ยิงได้ 8 ลูก และอีก 18 แอสซิสต์ ถือเป็นจำนวนที่เยอะสุดในลีกฤดูกาล 2017 อีกด้วย และถือเป็นเป็นการย้ายทีมแบบถาวรออกจากทีมฉลามชลที่เจ้าตัวอยู่มาตลอด 10 ปีเต็ม (นับตอนสมัยเป็นแข้งเยาวชนด้วย)
สำหรับ เจ้านิว กองกลางดีกรีทีมชาติไทยย้ายจากสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับให้ทีม พัทยา ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 20 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2018 และเป็นการปิดฉากย้ายทีมแบบยืมตัว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ด้วย (ปี 2015 และ 2017) ก่อนที่ปี 2018 เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายทีมถาวรเพื่อโอกาสลงเล่นที่สม่ำเสมอและเป็นการเซ็นสัญญา 4 ปีกับทีมโลมาอีกด้วย สำหรับฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงช่วยทัพโลมาในไทยลีกไป 30 นัด ยิง 7 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์
สำหรับ เจ้าปก กองกลางดีกรีทีมชาติไทยย้ายจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี มาค้าแข้งกับให้ทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 20 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2017 ด้วยผลงานในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวลงเล่นในไทยลีก 32 นัด ยิง 8 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์ และรายการช้าง เอฟเอ คัพ ลงเล่น 6 นัด ยิง 2 ประตู พร้อมมีส่วนช่วยพาทีมแข้งเทพคว้าอันดับ 3 ไทยลีก 2017 และ รองแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 ได้อีกด้วย
สำหรับ เจ้าอุ้ม แบ็คซ้ายทีมชาติไทยที่สร้างเรื่องเซอร์ไพรส์ให้กับวงการฟุตบอลไทยเมื่อเจ้าตัวตัดสินใจย้ายข้ามฟากจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับให้ทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตั้งแต่เลกแรกฤดูกาล 2016 ยังไม่จบด้วยซ้ำ ด้วยค่าตัว 30 ล้านบาท
ในสัญญา 4 ปีครึ่งและคาดว่าเจ้าตัวน่าจะได้รับเงินเดือนจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอน สำหรับผลงานฤดูกาลนี้ของเจ้าตัวลงเล่นในไทยลีก 30 นัด ยิง 7 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยทีมคว้ารองแชมป์ไทยลีก 2017 และแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ 2017 ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
สำหรับ เจ้าตั้ม กองกลางตัวรับที่ตัดเกมดีที่สุดในเมืองไทย ย้ายจากทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปร่วมทัพ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท หรือราว 1 ล้านปอนด์ ถือเป็นสถิติสูงสุดในเวลานี้ของไทยลีก โดยย้ายมาในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2017 อีกทั้งเจ้าตัวยังทำลายสถิติเดิมค่าตัวแพงของ ฮาเวียร์ ปาตินโญ่ ที่ย้ายจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ เหอหนาน เจี้ยนยี่ ในศึกไชนิส ซุปเปอร์ ลีก ด้วยค่าตัว 40 ล้านบาท เมื่อปี 2015 อีกด้วย สำหรับผลงานของ เจ้าตั้ม ในฤดูกาลนี้ ลงเล่นในไทยลีกไป 22 นัด ยิง 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ถึงแม้เจ้าตัวจะได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักยาวไป แต่ต้นสังกัด เชียงราย ก็สามารถคว้าแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่พร้อมคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 รอบคัดเลือกรอบ 2 ได้อีกด้วย
สำหรับ ปีโป้ ย้ายจากสโมสร อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับให้ทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 13 ล้านบาท ในช่วงเลกสองของฤดูกาล 2017 โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงเล่นให้ทั้งอุบลฯ 16 นัดในลีก และ เมืองทอง 12 นัด แต่ยังไม่สามารถทำประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งอนาคตของกองหน้าทีมชาติไทยรายนี้ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรในฤดูกาล 2018
สำหรับ เฟย ย้ายจากสโมสร บีอีซี เทโร ศาสน มาค้าแข้งกับให้ทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 15 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2017 โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงเล่นให้ทีมกว่างโซ้งในลีกไป 24 นัด ยิง 1 ประตู และอีก 9 แอสซิสต์ ส่วนรายการช้าง เอฟเอ คัพ ลงเล่น 6 นัด ยิง 2 ประตู และ 1 แอสซิสต์ พร้อมมีส่วนพาทีม เชียงราย ผงาดครองแชมป์เอฟเอ คัพ 2017 ได้อย่างสุดยอด
7. ศิวกรณ์ เตียตระกูล
สำหรับ เฟย ย้ายจากสโมสร บีอีซี เทโร ศาสน มาค้าแข้งกับให้ทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 15 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2017 โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงเล่นให้ทีมกว่างโซ้งในลีกไป 24 นัด ยิง 1 ประตู และอีก 9 แอสซิสต์ ส่วนรายการช้าง เอฟเอ คัพ ลงเล่น 6 นัด ยิง 2 ประตู และ 1 แอสซิสต์ พร้อมมีส่วนพาทีม เชียงราย ผงาดครองแชมป์เอฟเอ คัพ 2017 ได้อย่างสุดยอด
6. สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
สำหรับ เจ้าตี๋ ย้ายจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี มาค้าแข้งกับให้ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี ด้วยค่าตัว 15 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2016 โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงเฝ้าเสาให้ทัพช้างศึกยุทธหัตถีแทบทุกนัดในลีก 34 นัด เสียประตู 58 ลูก และเก็บคลีตชีตได้ 4 นัด ขณะที่รายการช้าง เอฟเอ คัพ ลงเล่น 4 นัด เสีย 2 ลูก และเก็บ 2 คลีนชีต และมีแนวโน้มว่าปีหน้าจะยังคงอยู่กับทีมต่อไปเนื่องจากสัญญายังมีเหลือกับทีมอีกประมาณ 2 ปี
5. นูรูล ศรียานเก็ม
4. พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี
สำหรับ เจ้านิว กองกลางดีกรีทีมชาติไทยย้ายจากสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับให้ทีม พัทยา ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 20 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2018 และเป็นการปิดฉากย้ายทีมแบบยืมตัว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ด้วย (ปี 2015 และ 2017) ก่อนที่ปี 2018 เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายทีมถาวรเพื่อโอกาสลงเล่นที่สม่ำเสมอและเป็นการเซ็นสัญญา 4 ปีกับทีมโลมาอีกด้วย สำหรับฤดูกาลนี้เจ้าตัวลงช่วยทัพโลมาในไทยลีกไป 30 นัด ยิง 7 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์
3. ปกเกล้า อนันต์
สำหรับ เจ้าปก กองกลางดีกรีทีมชาติไทยย้ายจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี มาค้าแข้งกับให้ทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 20 ล้านบาท ในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2017 ด้วยผลงานในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวลงเล่นในไทยลีก 32 นัด ยิง 8 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์ และรายการช้าง เอฟเอ คัพ ลงเล่น 6 นัด ยิง 2 ประตู พร้อมมีส่วนช่วยพาทีมแข้งเทพคว้าอันดับ 3 ไทยลีก 2017 และ รองแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 ได้อีกด้วย
2. ธีราทร บุญมาทัน
1. ธนบูรณ์ เกษารัตน์
สำหรับ เจ้าตั้ม กองกลางตัวรับที่ตัดเกมดีที่สุดในเมืองไทย ย้ายจากทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปร่วมทัพ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท หรือราว 1 ล้านปอนด์ ถือเป็นสถิติสูงสุดในเวลานี้ของไทยลีก โดยย้ายมาในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2017 อีกทั้งเจ้าตัวยังทำลายสถิติเดิมค่าตัวแพงของ ฮาเวียร์ ปาตินโญ่ ที่ย้ายจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ เหอหนาน เจี้ยนยี่ ในศึกไชนิส ซุปเปอร์ ลีก ด้วยค่าตัว 40 ล้านบาท เมื่อปี 2015 อีกด้วย สำหรับผลงานของ เจ้าตั้ม ในฤดูกาลนี้ ลงเล่นในไทยลีกไป 22 นัด ยิง 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ถึงแม้เจ้าตัวจะได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักยาวไป แต่ต้นสังกัด เชียงราย ก็สามารถคว้าแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2017 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่พร้อมคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 รอบคัดเลือกรอบ 2 ได้อีกด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น