หลังเกมไทยลีก 2018 แข้งเทพ - กิเลนผยอง
หลังเกมไทยลีก 2018 แข้งเทพ - กิเลนผยอง
บทความบอลไทยวันนี้...เราจะมาพูดถึงประเด็นหลังเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง ทรู แบงค็อกฯ พบกับ เอสซีจี เมืองทองฯ ในศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 นัดแรก ซึ่งเกมนี้เรียกว่าเป็นเกมระดับ 5 ดาวและสุดดราม่าไปเลยทีเดียว...
เกมนี้ในครึ่งแรกทางด้านทีมเจ้าบ้าน "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อกฯ ทำได้ดีกว่า เมื่อแนวรับทั้ง เอเวอร์ตัน และ มานูเอล ต่างทำงานได้เข้าขาด้วยการไล่ประกบติด "จาจ้า" โคเอลโญ่ กองหน้าเมืองทองฯ ซะเล่นไม่ออกเลย ก่อนที่ทีมเจ้าถิ่นจะได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 ช่วงครึ่งแรก จากนั้นพอเริ่มเข้าครึ่งหลังเพียงต้นเกม เจ้าถิ่น แบงค็อกฯ ก็มาบวกประตู 2-0 ทำให้ สถานการณ์บีบทีมเยือนเมืองทองฯ ต้องแก้เกมใหม่ยกใหญ่ ก่อนจะเกิดจุดเปลี่ยนเมื่อทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตกไล่มา 1-2 จาก เจนรบ สำเภาดี กองหน้าเมืองทองฯ จากนั้นเกมก็เป็นหนังคนละม้วนกับครึ่งแรกไปเลย เมื่อเป็นเมืองทองฯ ทีมเยือนไล่บุกพับสนามอยู่ฝ่ายเดียวจนพลิกกลับมาเก็บชัยชนได้ในที่สุด
สำหรับเกมนี้จะเรียกว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษก็ว่าได้ เมื่อทีมเยือนที่ไร้แข้งหลักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน สองแข้งหลักที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของทีมต้องหายไปเพราะต้องไปค้าแข้งต่างแดน ทำให้เกมนี้ "โค้ชแบน" ต้องใช้ทรัพยากรในทีมที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และก็เป็นทาง เจนรบ สำเภาดี ที่ฉกฉวยโอกาสนั้นไว้ได้อย่างคุ้มค่า เพียงแค่ไม่กี่นาทีในครึ่งหลังที่เจ้าลงมาเล่นแทน สิโรจน์ ฉัตรทอง ก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกมอย่างเห็นได้ชัด ทีมต่อบอลได้ไหลลื่นขึ้นและการขึ้นเกมกดดันคู่แข่งเจ้าถิ่นก็กลับมาเป็นเมืองทองฯ ทีมเดิมอีกครั้ง และเกมนี้ เจนรบ ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าเขาคู่ควรที่จะเล่นให้เมืองทองฯ ได้เหมือนกัน และอย่างที่ทราบคือเจ้าตัวซัดแฮตทริคแรกให้ทีมได้และตัวเองในอาชีพนักฟุตบอลอีกด้วย
ชัยชนะในนัดนี้ทำให้ทีม "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายไว้ได้อีกครั้งเป็นปีที่ 10 ติดต่อกันและในตอนนี้มีเพียง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ เมืองทองฯ 2 ทีมเท่านั้นที่ยังไร้พ่ายในเกมไทยลีกนัดเปิดสนามเกมแรก ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า 2 ทีมนี้ใครจะทำสถิติได้ยาวนานกว่ากันในการไร้พ่ายเกมเปิดสนามไทยลีกในปีต่อไป
สำหรับเกมนี้จะเรียกว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษก็ว่าได้ เมื่อทีมเยือนที่ไร้แข้งหลักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน สองแข้งหลักที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของทีมต้องหายไปเพราะต้องไปค้าแข้งต่างแดน ทำให้เกมนี้ "โค้ชแบน" ต้องใช้ทรัพยากรในทีมที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และก็เป็นทาง เจนรบ สำเภาดี ที่ฉกฉวยโอกาสนั้นไว้ได้อย่างคุ้มค่า เพียงแค่ไม่กี่นาทีในครึ่งหลังที่เจ้าลงมาเล่นแทน สิโรจน์ ฉัตรทอง ก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกมอย่างเห็นได้ชัด ทีมต่อบอลได้ไหลลื่นขึ้นและการขึ้นเกมกดดันคู่แข่งเจ้าถิ่นก็กลับมาเป็นเมืองทองฯ ทีมเดิมอีกครั้ง และเกมนี้ เจนรบ ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าเขาคู่ควรที่จะเล่นให้เมืองทองฯ ได้เหมือนกัน และอย่างที่ทราบคือเจ้าตัวซัดแฮตทริคแรกให้ทีมได้และตัวเองในอาชีพนักฟุตบอลอีกด้วย
ชัยชนะในนัดนี้ทำให้ทีม "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายไว้ได้อีกครั้งเป็นปีที่ 10 ติดต่อกันและในตอนนี้มีเพียง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ เมืองทองฯ 2 ทีมเท่านั้นที่ยังไร้พ่ายในเกมไทยลีกนัดเปิดสนามเกมแรก ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า 2 ทีมนี้ใครจะทำสถิติได้ยาวนานกว่ากันในการไร้พ่ายเกมเปิดสนามไทยลีกในปีต่อไป
จังหวะ 50-50 ในการปะทะกับ แอนโทนี่ กองกลางของ ทรู แบงค็อกฯ ทำให้ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะควักใบเหลืองที่สองให้กับ ชาริล ชัปปุยส์ ไล่ออกจากสนามในช่วงท้ายเกม โดยเกมนี้ทั้งเกม กองกลางหน้าหล่อลูกครึ่งไทย-สวิส เล่นไม่ออกเลย ดูติดๆ ขัดๆ ยังไงก็ไม่รู้ เล่นแบบไม่มั่นใจ ก่อนจะทำฟาวล์จนได้รับใบเหลือง-แดง ทำให้เกมนัดต่อไปเจ้าตัวจะหมดสิทธิ์ลงช่วยทีมอย่างแน่นอน
ย้อนกลับไปปี 2016 ในบ้านของ เมืองทองฯ เกมไทยลีก แบงค็อกฯ ที่คุมทีมโดย มาโน่ โพลกิ้ง สามารถนำทีมบุกเฉือนชนะเมืองทองฯ ได้ 3-2 จากนั้นเมื่อกลับมาเล่นในรังเหย้าตัวเองในการรับมือเมืองทองฯ ของโค้ชแบน เจ้าตัวยังก็ทำไม่ได้ตามเป้า เริ่มต้นด้วยการ เสมอเมืองทองฯ 3-3 ปี 2016 , พ่ายเมืองทองฯ 2-4 ปี 2017 และล่าสุดปี 2018 พ่ายอีก 2-3
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น